พระควัมปติเถระพระเถระ ผู้แสดงฤทธิ์หยุดกระแสน้ำ

ประวัติพระควัมปติเถระ


พระควัมปติเถระ เป็นหนึ่งในพระมหาเถระลำดับแรก ๆ ของพระพุทธเจ้า ซึ่งได้รับการบรรพชาโดยวิธีเอหิภิกขุอุปสัมปทา โดยได้รับการบวช จากพระบรมศาสดา ต่อจากพระยสเถระ ถ้าถือตามลำดับชื่อที่ปรากฏในพระบาลีท่านก็เป็นพระอรหันต์องค์ที่ ๑๐ ของโลก

พระเถระรูปนี้ ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้ว ในพระพุทธเจ้าพระองค์ ก่อนๆ ได้สั่งสมบุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานไว้เป็นอันมากในภพนั้นๆ ดังนี้

พาหิยะ...ผู้ตรัสรู้เร็ว


พาหิยะเป็นพ่อค้า เดินทางค้าขายด้วยเรือสินค้าขนาดใหญ่ มีผู้คนร่วมเดินทางเป็นจำนวนมาก จนมาวันหนึ่งเกิดพายุกลางทะเลอย่างรุนแรงจนเรือล่ม ทุกคนบนเรือตายหมด แต่พาหิยะโชคดีคว้าไม้กระดานได้ แม้ต้องลอยคออยู่กลางทะเลหลายชั่วโมง แต่ก็รอดชีวิตมาได้

สมาธิภาวนา พระอาจารย์ชยสาโร

จิตก่อนเกิดและก่อนตายเป็นอย่างไร พระราชสังวรญาณ (พุธ ฐานิโย)

ท่านอาจารย์ทอง อโสโก ศิษย์องค์หนึ่งของหลวงปู่เสาร์ เล่าให้ฟังว่า มีพระองค์หนึ่ง อยู่ที่อำเภออำนาจเจริญ อุปสมบทในงานฉลองอายุของหลวงปู่เสาร์ที่วัดบูรพา เมืองอุบล เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๓ พออุปสมบทแล้วก็ไปจำพรรษาที่วัดบ้านสามผง อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม แล้วก็ไปป่วยหนัก ท้องร่วง มรณภาพอยู่ที่วัดนั้น

ความตาย พระราชนิพนธ์โดย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ความเอ๋ย ความตาย


สิ้นชื่อหาย เพราะไม่มี ความดีเหลือ

คือตายเน่า ตายหนอน เป็นบ่อนเบือ

น่าเหม็นเบื่อ ตายเช่นนี้ ดีอะไร

ถ้าตัวตาย ไว้ลาย ให้โลกเห็น

ก็เหมือนเป็น อยู่คู่หล้า อย่าสงสัย

ตายแต่เปลือก เยื่อในอยู่ คู่โลกไป

เป็นประโยชน์ แก่ใครใคร ไม่สิ้นเอย

เห็นกันอยู่เมื่อเช้า สายตาย

สายอยู่สุขสบาย บ่ายม้วย

บ่ายรื่นชื่นรวยราย เย็นดับ ชีพแฮ

เย็นเล่นกับลูกด้วย ค่ำม้วยอาสัญ

พื้นที่ชีวิต - แม่ชี ดร.ไพเราะ 26May11

ภาพเก่าๆของครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่น (หาดูยาก)

http://www.dhammada.net/2011/05/24/9585/

พื้นที่ชีวิต - แค่รู้ว่า "คิด" 16Jun11







หัดเป็นนักหลบเสียบ้าง อย่าเอาแต่เป็นนักรบอย่างเดียว

ถาม : บางครั้งเวลาใช้มรณานุสติแล้วผมกดโทสะไม่อยู่ สองสามวันก่อนผมโกรธมาก ถ้าเราตายไปตอนนี้..?

ตอบ : ไม่ต้องห่วง ลงนรกแน่นอน..!

ถาม : ทุกครั้งเอาอยู่ แต่ครั้งนี้คิดว่าเรายังไม่ตาย ขอก่อน ขอโกรธก่อน มีวิธีแนะนำไหมครับ ?

ตอบ : มี..อย่าให้อารมณ์ถึงที่สุด รีบเผ่นออกจากสถานการณ์นั้นก่อน นึกถึงที่ หลวงปู่หล้า วัดภูจ้อก้อ ท่านบอกว่า หัดเป็นนักหลบเสียบ้าง อย่าเอาแต่เป็นนักรบอย่างเดียว สถานการณ์ที่รบแล้วตายอย่างเดียวแล้วยังรบอยู่ เขาเรียกว่า โง่..! ชัดไหม ?

เราไม่ยอมออกจากเหตุการณ์ก็ต้องระเบิดอารมณ์จนได้ สมัยก่อนตอนที่อาตมาสู้กับพวกนี้อยู่ อาตมาไม่เกรงใจใครหรอก ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่อง ทำให้เกิดโทสะ ก็จะหันหลังเดินหนีไปเลย ใครจะว่าเสียมารยาทก็ช่างหัวมัน ต้องเอากำลังใจของตัวเองไว้ก่อน ยังดีนะที่คุณยังคิดถึงมรณานุสติได้ ถ้าเป็นอาตมาสมัยก่อนไม่เสียเวลาคิดหรอก ลงมือไปแล้ว..!


สนทนากับพระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนมิถุนายน ๒๕๕๔
ที่มา : http://board.palungjit.com/f61/หัดเป็นนักหลบเสียบ้าง-อย่าเอาแต่เป็นนักรบอย่างเดียว-300660.html

พิจารณาอสุภ-ปฏิกูลสัญญา

- ผ่าศพ 1 : http://youtu.be/hKLS7syn-BE
- ผ่าศพ 2  : http://youtu.be/hyt5ntW8T7s
- เผาศพ : http://www.youtube.com/watch?v=H8jPTfzy85o&feature=related
- พิธีศพธิเบต 1 : http://www.youtube.com/watch?v=2m0PQo7UgqQ&feature=related
- พิธีศพธิเบต 2-1 : http://www.youtube.com/watch?v=Gu1qoalsfj0&feature=related
- พิธีศพธิเบต 2-2 : http://www.youtube.com/watch?v=5Q1IhYOtJVg&NR=1

มีสิ่งอันเป็นที่รักเป็นที่พอใจเป็นที่หวัง ก็ต้องมีความทุกข์เป็นธรรมดา

มีพราหมณ์คนหนึ่งในสมัยพระพุทธเจ้า
ทำนาจนเกือบจะเก็บเกี่ยวอยู่แล้ว
คิดว่าวันรุ่งขึ้นจะได้เก็บเกี่ยว
พอดีคืนนั้นน้ำท่วมหนัก
พัดพาเอาต้นข้าวไปหมด
นาล่ม ไม่มีเหลือเลย
ตืนเช้าขึ้นมาเขาไปดูก็
เหลือแต่ผืนนา ไม่มีต้นข้าวเลย มีความทุกข์มาก

พระพุทธเจ้าท่านเสด็จ
ปลอบว่า
“มีสิ่งอันเป็นที่รักเป็นที่พอใจเป็นที่หวัง ก็ต้องมีความทุกข์เป็นธรรมดา”

ในเวลาที่เราต้องพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก หรือมันพลัดพรากจากเราไป
มันก็เป็นความทุกข์อย่างนี้ “ปิยโต ชายเต โสโก ปิยโต ชายเต ภยํ ปิยโต”

ความโศกเกิดจากสิ่งอันเป็นที่รักหรือความกลัวก็จะเกิดจากสิ่งอันเป็นที่รัก

ถ้าพ้นแล้วจากสิ่งอันเป็นที่รักความโศกและความกลัวก็ไม่มี”โดย วศิน
อินทสร

ปิยโต ชายเต โสโก ปิยโต ชายเต ภยํ
ปิยโต วิปฺปมุตฺตสฺส นตฺถิ โสโก กุโต ภยํ ฯ


ที่ใดมีรัก ที่นั้นมีความเศร้าโศก ที่ใดมีรัก ที่นั้นมีภัย
เมือไม่มีความรักเสียแล้ว ความเศร้าโศกและภัยก็ไม่มี.


ที่มา : www.tourwat.com

พื้นที่ชีวิต - เด็กวัดชื่อ สิงห์ 10 มี.ค.2554







ขอเชิญร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ ประเทศญี่ปุ่น



จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ห่างออกไปทางทิศตะวันออกของประเทศญี่ปุ่น ประมาณ 130 ก.ม อันก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิสูง 10 เมตร พัดถล่มบ้านเรือนประชาชนหลายเมืองบนเกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมหาศาล ซึ่งปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตแล้ว 686 คน และมีผู้สูญหายอีกจำนวนมาก นับเป็นโศกนาฏกรรมครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 140 ปี ของประเทศญี่ปุ่น

พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก เจ้าอาวาสวัดสุนันทวนาราม จังหวัดกาญจนบุรี (วัดสาขาที่ 117 ของวัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี ผู้มีถิ่นกำเนิด ณ จังหวัดอาวาเต้ เกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น ขอเชิญสาธุชนร่วมส่งธารน้ำใจ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยคลื่นยักษ์สึนามิในครั้งนี้ โดยสามารถบริจาคผ่านมูลนิธิมายาโคตมี และมูลนิธิพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
โทรศัพท์ 02 –368 3991 ( 5คู่สาย)
หรือโอนงินข้าบัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์ (มหาชน)
สาขาย่อยเซ็นต์หลุยส์ 3 ชื่อบัญชี วัดสุนันทวนาราม
เลขที่บัญชี 087-2-09933-2

ร่วมบริจาคให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยหรือติดตามญาติหรือผู้สูญหายในญี่ปุ่น

ขอสรุปข่าวบัญชีร่วมบริจาคและการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในญี่ปุ่น

ช่องทางการให้ความช่วยเหลือ

1.กระทรวงการต่างประเทศได้เปิดบัญชีรับเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยในญี่ปุ่น สำหรับผู้ประสงค์จะบริจาค ที่

ธนาคารกรุงไทย สาขาสามยอด
ชื่อบัญชี: เงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ญี่ปุ่น

บัญชีออมทรัพย์
เลขที่บัญชี: 002-0-27146-8
============================================

หลวงตามหาบัวละสังขาร - จากเรื่องเล่าเช้านี้ 30 ม.ค.2554

แว่นส่องความเป็นพระโสดาบัน

อานนท์
! เราจักแสดง ธรรมปริยายอันชื่อว่าแว่นธรรม ซึ่ง หากอริยสาวกผู้ใด ได้ประกอบพร้อมแล้ว เมื่อจำนงจะพยากรณ์ตนเอง ก็พึงทำได้ในข้อที่ตนเป็นผู้มีนรกสิ้นแล้ว มีกำเนิดเดรัจฉานสิ้นแล้ว มีเปรตวิสัยสิ้นแล้วมีอบาย ทุคติ วินิบาต สิ้นแล้ว, ในข้อที่ตนเป็นพระโสดาบันผู้มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เที่ยงแท้ต่อพระนิพพาน เป็นผู้มีอันจะตรัสรู้ธรรมได้ในกาลเบื้องหน้า ดังนี้.

อานนท์
! ก็ธรรมปริยายอันชื่อว่า แว่นธรรม ในที่นี้ เป็นอย่างไรเล่า ?

อานนท์
! อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ ประกอบพร้อมแล้วด้วยความเลื่อมใสอันหยั่งลงมั่น ไม่หวั่นไหว ในองค์พระพุทธเจ้า....ในองค์พระธรรม.... ในองค์พระสงฆ์.... และอริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ประกอบพร้อมแล้วด้วยศีลทั้งหลายชนิดเป็นที่พอใจของเหล่าอริยเจ้า คือเป็นศีลที่ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย เป็นศีลที่เป็นไทจากตัณหา เป็นศีลที่ผู้รู้ท่านสรรเสริญเป็นศีลที่ตัณหาและทิฏฐิไม่ลูบคลำและเป็นศีลที่เป็นไปเพื่อสมาธิ.

อานนท์
! ธรรมปริยาย อันนี้แล ที่ชื่อว่า แว่นธรรม ซึ่งหาก อริยสาวกผู้ใดได้ประกอบพร้อมแล้ว เมื่อจำนงจะพยากรณ์ตนเอง ก็พึงทำได้, ดังนี้แล.

- มหาวาร. สํ. ๑๙/๔๕๐-๔๕๑-๑๔๗๙-๑๔๘๐.

เสียงธรรมจากหลวงตา

คลิกที่นี่เพื่อฟังธรรมจากหลวงตามหาบัว

อาลัยพระวิปัสสนาสายหลวงปู่มั่น "หลวงตามหาบัว"


เมื่อเวลา 03.53 น.วันที่ 30 ม.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า"หลวงตามหาบัว"ญาณสัมปันโน(พระธรรมวิสุทธิมงคล) เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี พระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีสานละสังขารอย่างสงบ สิริอายุรวม 98 ปี...

ทั้งนี้ หลวงตามหาบัวเข้ารับการรักษาอาการอาพาธ ณ โรงพยาบาลศิริราช มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตามคำนิมนต์ของคณะแพทย์โรงพยาบาลศิริราช รวมทั้งโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น และโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ที่ได้ให้การรักษามาก่อนหน้านี้ ก่อนจะเดินทางกลับมาพักรักษาตัวที่วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ 3 ม.ค.

สำหรับประวัติ"หลวงตามหาบัว"กำเนิด ในครอบครัวชาวนา ณ บ้านตาด อุดรธานี วันเกิด 12 ส.ค.2456 มีพี่น้องทั้งหมด 16 คน สมัยเด็ก เคารพเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา โดยได้ร่วมทำบุญตักบาตรกับผู้ใหญ่อยู่เสมอ วัยหนุ่ม เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัว ขยันขันแข็ง ทำงานอะไรทำจริงๆ จังๆ เป็นที่ไว้วางใจของพ่อแม่ในการงานทั้งปวง คู่ครอง เดิมไม่เคยคิดจะบวช เพราะอยากมีครอบครัว แต่มักมีอุปสรรคให้แคล้วคลาดทุกทีไป

เหตุที่บวช เมื่ออายุครบ 20 ปี พ่อแม่ขอร้องให้บวชตามประเพณีอยู่หลายครั้ง ท่านก็ทำเฉย ๆ ตลอดมา ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธแต่อย่างใด ในครั้งสุดท้ายนี้ ด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า หวังพึ่งใบบุญจากการบวชของลูกให้ได้ ถึงกับทำให้พ่อแม่น้ำตาร่วง ครั้งนี้ท่านรู้สึกสะเทือนใจและเห็นใจพ่อแม่มาก จึงตัดสินใจ และยอมบวชตามประเพณี เพื่อตอบแทนพระคุณพ่อแม่ โดยตั้งใจไว้ในตอนต้นนี้ว่า จะบวชเพียงระยะสั้น ๆ เท่านั้น

วันบวช 12 พ.ค.2477 ณ วัดโยธานิมิตร อุดรธานี พระอุปัชฌาย์ ชื่อ ท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์(จูม พันธุโล) วัดโพธิสมภรณ์.

อาลัย"หลวงตามหาบัว"เกจิดังอีสานละสังขาร - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

โครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสทรงพระชนมายุครบ 84 พรรษา




4-6 กุมภาพันธ์ 2554
ณ อาคารมูลนิธิพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
เลขที่ 3 ถนนกรุงเทพกรีฑา 20 แยก 7 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร 10240
มูลนิธิพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก จะจัดอบรมปฏิบัติธรรมแก่ประชาชนผู้สนใจทั่วไป โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- จัดอบรมตั้งแต่ 6 โมงเย็นวันศุกร์ – 6 โมงเย็นวันอาทิตย์ เดือนละครั้ง ตามกำหนดการข้างท้าย
- ผู้สนใจสามารถเข้าอบรมในช่วงเวลาใดก็ได้ และจะกลับเวลาใดก็ได้ตามความสะดวก (ไม่ต้องสมัครล่วงหน้า)
- สำหรับผู้ที่ประสงค์จะพักค้างคืนต้องแจ้งล่วงหน้าไปยัง DHAMMAMITREE@hotmail.com หรือติดต่อคุณสินีนาถ โทร. 089-456-6531, คุณศิริพร โทร. 081-823-0026, คุณสร้อยนภา โทร. 089-161-8666 (ชายพักได้ 100 คน และหญิงพักได้ 100 คน)
- ผู้ที่พักค้างคืนให้เตรียมเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวมาให้พร้อม (ทางมูลนิธิฯ ไม่อนุญาตให้ซักผ้า เนื่องจากจะรบกวนการปฏิบัติธรรมของผู้อื่น)
- ผู้มาพักค้างคืนไม่ควรนำสิ่งของมีค่าติดตัวมา หากจำเป็นต้องนำมาต้องฝากไว้ที่เจ้าหน้าที่ที่ส่วนอำนวยการ หากเก็บไว้เองแล้วทรัพย์สินสูญหาย ทางมูลนิธิฯ ไม่ขอรับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น
- มูลนิธิฯ กำหนดให้บริเวณชั้น 3 และชั้น 4 เป็นเขตปิดวาจา ห้ามพูดคุยกัน หรือส่งเสียงดัง ตลอดระยะเวลา 3 วัน เพื่อความสัปปายะของส่วนรวม (โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ ไม่อนุญาตให้ใช้ในบริเวณดังกล่าว) หากผู้ปฏิบัติธรรมมีข้อสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือสามารถสอบถามกับพระ อาจารย์โดยตรง หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ได้บริเวณชั้น 1 และชั้น 2
- สำหรับบริเวณชั้น 4 จัดไว้สำหรับปฏิบัติธรรมรวม ซึ่งรองรับได้ประมาณ 250 คน โดยมีกำหนดการดังนี้
วันศุกร์ 4 กุมภาพันธ์
18.00 น. – 19.00 น. สมาธิภาวนา
19.00 น. – 20.00 น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น
20.00 น. – 21.00 น. ฟังธรรมเทศนา
วันเสาร์ 5 กุมภาพันธ์
04.30 น. – 06.00 น. สวดมนต์ทำวัตรเช้า / สมาธิภาวนา
06.00 น.– 10.00 น. ปฏิบัติตามอัธยาศัย
10.00 น. – 11.00 น. ตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 9 รูป / รับประทานอาหาร
11.00 น. – 12.00 น. เจริญพุทธมนต์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
12.00 น.– 13.00 น. ฟังธรรมเทศนา
13.00 น.– 18. 00 น. ปฏิบัติตามอัธยาศัย
18.00 น. – 19.00 น. สมาธิภาวนา
19.00 น. – 20.00 น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น
20.00 น. – 21.00 น. ฟังธรรมเทศนา
วันอาทิตย์ 6 กุมภาพันธ์
04.30 น. – 06.00 น. สวดมนต์ทำวัตรเช้า / สมาธิภาวนา
06.00 น.– 10.00 น. ปฏิบัติตามอัธยาศัย
10.00 น. – 11.00 น. ตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 9 รูป / รับประทานอาหาร
11.00 น. – 12.00 น. เจริญพุทธมนต์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
12.00 น.– 13.00 น. ฟังธรรมเทศนา
13.00 น.– 18. 00 น. ปฏิบัติตามอัธยาศัย
หมายเหตุ
- มูลนิธิฯ เปิดรับบุคคลทั่วไปเข้าปฏิบัติธรรม โดยสามารถไป-กลับระหว่างวันได้ คือ
1. ช่วงกลางวันเวลา 10.00 น. – 13.00 น. ในวันเสาร์ และวันอาทิตย์ ร่วมกิจกรรมถวายภัตตาหารพระสงฆ์ 9 รูป , สวดเจริญพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติฯ, ฟังธรรมเทศนา
2. ช่วงค่ำเวลา 18.00 น. – 21.00 น. ในวันศุกร์ และวันเสาร์ ร่วมกิจกรรมเจริญสมาธิภาวนา, สวดมนต์ทำวัตรเย็น และฟังธรรมเทศนา
- มูลนิธิฯ ได้จัดที่จอดรถซึ่งรองรับได้ประมาณ 500 คัน พร้อมมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยตลอดเวลา

ที่มา : http://www.watsunan.org/node/144

พื้นที่ชีวิต-นิพพาน4/4

พื้นที่ชีวิต-นิพพาน3/4

พื้นที่ชีวิต-นิพพาน2/4

พื้นที่ชีวิต-นิพพาน1/4

เสขิยกัณฑ์ (ว่าด้วยวัตรและจรรยามารยาทที่ภิกษุจะต้องศึกษา - หมวดว่าด้วยการฉันอาหาร)

(๒) โภชนปฏิสังยุต (หมวดว่าด้วยการฉันอาหาร)
มี ๓๐ สิกขาบท

เสขิยกัณฑ์ (ว่าด้วยวัตรและจรรยามารยาทที่ภิกษุจะต้องศึกษา -หมวดว่าด้วยความเหมาะสมแก่สมณเพศ)

              ต้นเหตุแห่งการบัญญัติสิกขาบททุกข้อทั้งเจ็ดสิบห้าข้อในเสขิยกัณฑ์นี้ เนื่องมาแต่ภิกษุฉัพพัคคีย์ (ภิกษุพวก ๖) ทำความไม่ดีไม่งามไว้ทั้งสิ้น ในตัวสิกขาบทมิได้ปรับอาบัติไว้ เพียงแต่กล่าวว่า ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ หรือไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ในคำอธิบายท้ายสิกขาบทระบุว่า ถ้าทำเข้าต้องอาบัติทุกกฏ (ซึ่งแปลว่าทำชั่ว) พร้อมทั้งแสดงลักษณะที่ไม่ต้องอาบัติไว้ด้วย ในที่นี้จะรวบรัดกล่าวเฉพาะตัวสิกขาบท ส่วนวัตถุประสงค์ที่บัญญัติสิกขาบทนั้น ตลอดจนคำอธิบายท้ายสิกขาบท ข้อใดควรกล่าวไว้ก็จะกล่าวไว้ในวงเล็บ อนึ่ง เมื่อจัดหมวดใหญ่ ๆ ไว้แล้ว ยังจัดวรรคไว้คาบเกี่ยวระหว่างหมวดใหญ่ ๆ อีกด้วย ในที่นี้จึงเลือกแสดงไว้แต่หมวดใหญ่เพื่อกันความฟั่นเฝือ การจัดวรรคอาจสะดวกในการสวดก็ได้ แต่ในปัจจุบันการสวดปาฏิโมกข์ของพระมิได้ระบุวรรคไว้ด้วย คงออกชื่อแต่หมวดใหญ่ ๆ.