กำเนิดคัมภีร์วิมุตติมรรค


เมื่อราว ๆ สิบปีเศษล่วงมา มีข่าวเกรียวกราวในวงการพระพุทธศาสนาลังกาว่า พระภิกษุนารทเถระผู้เดินทางดูการพระศาสนาในนานาประเทศ ได้ไปพบคัมภีร์ปกรณ์วิเศษ ชื่อ วิมุตติมรรคในประเทศจีน ท่านนารทเถระ และพุทธศาสนิกลังกามีความยินดีตื่นเต้นมาก ที่ได้ค้นพบคัมภีร์วิเศษสำคัญของวงการศึกษาพระพุทธศาสนาฝ่ายใต้ แต่ปรากฏว่าต้นฉบับได้สูญหายไปจากคลังปริยัติภาษาบาลีมานานแล้ว ปรากฏแต่นามของคัมภีร์ที่ในปกรณ์อื่น ๆ กล่าวอ้างถึง ท่านนารทเถระพยายามสืบหามาหลายปี เพิ่งจะได้พบต้นฉบับที่แปลเป็นจีนในประเทศจีนนี้

ภาพยนตร์ฝีมือคนไทย "พุทธศาสดา"

รอชมภาพยนตร์ "พุทธศาสดา" ฝีมือคนไทยเร็วๆ นี้ ติดตามข่าวได้ที่นี่ >>> http://buddha-thushaveiheard.com/

ธรรมเทศนาที่ทำให้เกิดพระอริยสาวกขึ้นองค์แรก



[๑๒] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเสด็จจาริกโดยลำดับ ถึงป่าอิสิปตนมฤคทายวันแขวงเมืองพาราณสี เสด็จเข้าไปทางสำนักพระปัญจวัคคีย์. พระปัญจวัคคีย์ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเสด็จมาแต่ไกล แล้วได้นัดหมายกันและกันว่า ท่านทั้งหลาย พระสมณะโคดมนี้เป็นผู้มักมากคลายความเพียร เวียนมาเพื่อความเป็นคนมักมาก กำลังเสด็จมา พวกเราไม่พึงอภิวาท ไม่พึงลุกขึ้นต้อนรับพระองค์ ไม่พึงรับบาตรจีวรของพระองค์ แต่พึงวางอาสนะไว้  ถ้าพระองค์ปรารถนาก็จักประทับนั่ง. ครั้นพระผู้มีพระภาคเสด็จเข้าไปถึงพระปัญจวัคคีย์ พระปัญจวัคคีย์นั้นไม่ตั้งอยู่ในกติกาของตน ต่างลุกขึ้นต้อนรับพระผู้มีพระภาค รูปหนึ่งรับบาตรจีวรของพระผู้มีพระภาครูปหนึ่งปูอาสนะ รูปหนึ่งจัดหาน้ำล้างพระบาท รูปหนึ่งจัดตั้งตั่งรองพระบาท รูปหนึ่งนำกระเบื้องเช็ดพระบาทเข้าไปถวาย พระผู้มีพระภาคประทับนั่งบนอาสนะ ที่พระปัญจวัคคีย์จัดถวาย แล้วทรงล้างพระบาท. ฝ่ายพระปัญจวัคคีย์เรียกพระผู้มีพระภาคโดยระบุพระนาม และใช้คำว่า "อาวุโส" เมื่อพระปัญจวัคคีย์กล่าวอย่างนั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสห้ามพระปัญจวัคคีย์ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธออย่าเรียกตถาคตโดยระบุชื่อ และอย่าใช้คำว่า "อาวุโส"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตถาคตเป็นอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ พวกเธอจงเงี่ยโสตสดับ เราได้บรรลุอมตธรรมแล้ว เราจะสั่งสอน จะแสดงธรรม พวกเธอปฏิบัติอยู่ตามที่เราสั่งสอนแล้ว ไม่ช้าสักเท่าไร จักทำให้แจ้งซึ่งคุณอันยอดเยี่ยม อันเป็นที่สุดแห่งพรหมจรรย์ ที่กุลบุตรทั้งหลายออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการนั้น ด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่.

การถวายผ้าอาบน้ำฝนมีผลานิสงส์อย่างไร

 ตัวอย่างหนึ่งในสมัยพุทธกาล....

ในสมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้า
เสด็จประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร ณ กรุงสาวัตถีในวันนั้นเป็นวัน ๘ ค่ำ นางวิสาขาได้ถือเครื่อง
สักการะ พร้อมด้วยบริวารเป็นอันมากไปสู่สำนักพระพุทธเจ้าถวายเครื่องสักการบูชาพระรัตนตรัยแล้ว
บังเอิญฝนตก พระภิกษุทั้งหลายได้เปลือยกายอาบน้ำฝนกันมากมาย นางวิสาขาเห็นเช่นนั้นแล้วก็เกิดความละอาย และคิดในใจว่าพระภิกษุไม่มีผ้าสำหรับอาบน้ำฝน ก็บังเกิดมีจิตศรัทธา คิดจะสร้างผ้าอาบน้ำฝนถวายเป็นทานแล้วก็กลับไปสู่กรุงสาวัตถี จัดแจงหาผ้าได้พอสมควรแล้วพอตอนเย็นก็พาบริวารและผ้านั้นมาสู่สำนักพระพุทธองค์แล้วถวายผ้าอาบน้ำฝนนั้น แก่องค์พระศาสดาพร้อมทั้งภิกษุทั้งหลายแล้วกราบทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ การถวายผ้าอาบน้ำฝนนี้มีผลานิสงส์เป็นอย่างไรพระเจ้าข้า

ขอเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาร่วมไถ่ชีวิตโค-กระบือประจำทุกเดือน

งานที่ 1 : 
ขอเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญ ไถ่ชีวิตโค-กระบือประจำทุกเดือน
ร่วมกับพระคุณเจ้าองค์หลวงพ่อทองปาน จารุวัณโณ
(ศิษย์ในหลวงปู่บุญจันทร์ กมโล พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)
เจ้าอาวาสวัดป่าสันตินิมิต จ.ศรีสะเกษ


สุเมธดาบส - อดีตชาติของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน

ย้อนกลับไปในอดีตชาติของพระสมณะโคตมะ (เจ้าชายสิทธัตถะ) ก่อนที่จะมาอุบัติเป็นพระพุทธเจ้านั้น ได้ทรงบำเพ็ญบารมีอยู่ในอดีตชาติ เรียกว่า “พระโพธิสัตว์” (แปลว่า ท่านผู้ที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า) ซึ่งอดีตชาติของพระพุทธเจ้านั้นมีมากมาย

ใน อดีตชาติหนึ่งพระโพธิสัตว์ของเราเกิดเป็น “สุเมธดาบส” และได้พบพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง มีพระนามว่า “พระพุทธทีปังกร” (พระพุทธเจ้าองค์ที่ ๔) ดังนั้น สุเมธดาบสจึงตั้งความปรารถนาไว้ว่า ขอให้ได้เป็นพระพุทธเจ้าเช่นพระองค์ท่าน

ใจเราที่มีความทุกข์เพราะเรายอมรับความจริงไม่ได้

 อ่านและฟังธรรมที่นี่ >>> http://www.dhammada.net/2010/04/19/1983/

ประวัติหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค (ฉบับนอกวัด)

วันที่ ๑๖ กรกฏาคม ๒๕๕๓ ตรงกับวันคล้ายวันเกิดของหลวงพ่อปาน (พระครูวิหารกิจจานุการ) วัดบางนมโค
ขอนำประวัติท่านมาให้อ่านกัน เพื่อน้อมระลึกในพระคุณอันยิ่งใหญ่
ที่ท่านมีต่อพระพุทธศาสนาและศิษยานุศิษย์
อ่านต่อที่นี่ >>> www.palungjit.com

แจกหนังสือและซีดีหลวงพ่อปราโมทย์ ในงานเทศกาล หนังสือเด็กและเยาวชนที่ศูนย์สิริกิติ์ 14-18 ก.ค.2553

ขอเชิญรับแจกหนังสือและซีดีหลวงพ่อปราโมทย์ ที่บูธพรีมา พับบลิชชิง [B-02 โซน C1]
ในงานเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชนที่ศูนย์สิริกิติ์ วันที่ 14-18 กรกฎาคมนี้นะครับ

ที่มา : http://www.dhammada.net/2010/07/13/2765/

วอนงดของบาป เหตุพระอาพาธ

ร.พ.สงฆ์เผยสถิติพระไทยอาพาธปีละกว่า ๗ หมื่นรูป ความดัน-เบาหวานพุ่ง ห่วงสุขภาพพระ 'งด'
ถวายอาหารหวานมันเค็ม บุหรี่ ...

พาหิยสูตร ( เมื่อเห็น จักเป็นสักว่าเห็น ....)

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของท่าน
อนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล กุลบุตรชื่อพาหิยทารุจีริยะ
อาศัยอยู่ที่ท่าสุปปารกะ ใกล้ฝั่งสมุทร เป็นผู้อันมหาชนสักการะ เคารพ นับถือ
บูชา ยำเกรง ได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร ครั้ง
นั้นแล พาหิยทารุจีริยะหลีกเร้นอยู่ในที่ลับ เกิดความปริวิตกแห่งใจอย่างนี้ว่า
เราเป็นคนหนึ่ง ในจำนวนพระอรหันต์หรือผู้ถึงอรหัตตมรรคในโลก ลำดับนั้นแล
เทวดาผู้เป็นสายโลหิตในกาลก่อนของพาหิยทารุจีริยะ เป็นผู้อนุเคราะห์ หวัง
ประโยชน์ ได้ทราบความปริวิตกแห่งใจของพาหิยทารุจีริยะด้วยใจ แล้วเข้าไปหา
พาหิยทารุจีริยะ

วัดบรมธาตุแก่งสร้อย จ.ตาก (20-23 ต.ค.2552)

พระเจ้าเตมีย์ทรงบำเพ็ญเนกขัมมบารมี

อรรถกถา เตมิยชาดก
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงพระปรารภมหาภิเนกขัมมบารมี. ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า มา ปณฺฑิจฺจยํ วิภาวย ดังนี้เป็นต้น.
ความ พิสดารว่า วันหนึ่ง ภิกษุทั้งหลายนั่งประชุมกันอยู่ในโรงธรรมสภา พรรณนามหาภิเนกขัมมบารมี ของพระผู้มีพระภาคเจ้า. พระศาสดาทรงสดับเรื่องนั้นด้วยทิพโสต เสด็จออกจากพระคันธกุฎีมายังโรงธรรมสภา ตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เธอทั้งหลายประชุมเจรจากันถึงเรื่องอะไร  เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลให้ทรงทราบแล้ว จึงตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรามีบารมีเต็มแล้ว ทิ้งราชสมบัติออกเพื่อคุณอันยิ่งใหญ่ในบัดนี้ ไม่น่าอัศจรรย์เลย เมื่อก่อน ญาณยังไม่แก่กล้า เรากำลังบำเพ็ญบารมีอยู่ ได้ทิ้งราชสมบัติออกเพื่อคุณอันยิ่งใหญ่นั้น จึงน่าอัศจรรย์. ตรัสดังนี้แล้ว ทรงดุษณีภาพอยู่. ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลวิงวอนให้ทรงเล่าเรื่อง จึงทรงนำอดีตนิทานมาแสดงดังต่อไปนี้.

พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญว่า "ความผาสุกย่อมมีแก่ภิกษุอยู่แต่ผู้เดียว"

[๓๗๑] ถ้าไม่มีผู้อื่นอยู่ข้างหน้าหรือข้างหลังเรา ความสบายใจอย่างยิ่งคงจะมี
แก่เราผู้อยู่ในป่าผู้เดียว ผิฉะนั้น เราผู้เดียวจักไปสู่ป่าอันพระพุทธเจ้า
ทรงสรรเสริญว่า ความผาสุกย่อมมีแก่ภิกษุอยู่แต่ผู้เดียว มีใจเด็ดเดี่ยว
เราผู้เดียวเป็นผู้ชำนาญในสิ่งที่เป็นประโยชน์ จักเข้าไปสู่ป่าใหญ่ อัน
ทำให้เกิดปีติแก่พระโยคาวจร น่ารื่นรมย์ เป็นที่อยู่ของหมู่ช้างตกมัน
โดยเร็วพลัน เราผู้เดียว จักอาบน้ำในซอกเขาอันเยือกเย็นในป่าอันเย็น
มีดอกไม้บานสะพรั่ง จักจงกรมให้เป็นที่สำราญใจ เมื่อไรเราจึงจักได้
อยู่ในป่าใหญ่อันน่ารื่นรมย์แต่ผู้เดียว ไม่มีเพื่อนสอง จักเป็นผู้ทำกิจสำเร็จ
หาอาสวะมิได้ ขอความประสงค์ของเราผู้ปรารถนาจะทำอย่างนี้จงสำเร็จ
เถิด เราจักยังความประสงค์ของเราให้สำเร็จจงได้ ผู้อื่นไม่อาจ
ทำผู้อื่นให้สำเร็จได้ เราจักผูกเกราะ คือ ความเพียร จักเข้า
ไปสู่ป่าใหญ่ เรายังไม่บรรลุถึงความสิ้นอาสวะแล้ว จักไม่ออกไปจากป่า
นั้นเมื่อลมพัดเย็นมา กลิ่นดอกไม้ก็หอมฟุ้งมา เราจักนั่งอยู่บนยอดเขา
ทำลายอวิชชา เราจักได้รับความสุขรื่นรมย์อยู่ด้วยวิมุตติสุขในถ้ำที่เงื้อม
เขา ซึ่งดารดาษไปด้วยดอกโกสุม มีภาคพื้นเยือกเย็น อันมีอยู่ใน
ป่าใหญ่เป็นแน่ เรามีความดำริอันเต็มเปี่ยม เหมือนพระจันทร์ใน
วันเพ็ญ เป็นผู้สิ้นอาสวะทั้งปวงแล้ว บัดนี้ ภพใหม่มิได้มี.

ที่มา : พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๘
ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถา
. เอกวิหาริยเถรคาถา
คาถาสุภาษิตของพระเอกวิหาริยเถระ

กฐินวัดป่าโนนแสนคำ (หลวงปู่เนย สมจิตฺโต) 23-25 ต.ค.2552

วัดป่าสุนันฯ วันวิสาขบูชา 2553

พระปาฏิโมกข์ เวอร์ชั่น ภาษาไทย

คำแปล พระปาฏิโมกข์ ที่ควรน้อมพิจารณานำเวลาสดับฟัง


นิททานุทเทส

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาค อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น (ว่า๓ จบ)

ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้าอุโบสถวันนี้ที่ ๑๕ ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้วสงฆ์พึงทำอุโบสถพึง แสดงซึ่งปาฏิโมกข์ บุรพกิจอะไรๆของสงฆ์ก็ทำสำเร็จแล้ว ท่านทั้งหลายพึงบอกความบริสุทธิ์ ข้าพเจ้าจักแสดงซึ่งปาฏิโมกข์พวกเราบรรดาที่มีอยู่ทั้งหมด จงฟัง จงใส่ใจซึ่งปาฏิโมกข์นั้น ให้สำเร็จประโยชน์.ผู้ใดหากมีอาบัติ ผู้นั้นก็พึง เปิดเผยเสียเมื่ออาบัติไม่มี ก็พึงนิ่งอยู่ ก็เพราะความเป็นผู้นิ่งแล ข้าพเจ้าจักทราบท่านทั้งหลายว่า เป็นผู้บริสุทธ์ ก็การสวดประกาศให้ได้ยินมี กำหนด ๓ ในบริษัทเห็นปานนี้อย่างนี้ เป็นเหมือนถูกถามตอบเฉพาะองค์ ก็ภิกษุใดเมื่อสวดประกาศจบครั้งที่ ๓ ระลึก(อาบัติ) ได้อยู่ ไม่ เปิดเผยอาบัติซึ่งมีอยู่ สัมปชานมุสาวาททุกกฎ ย่อมมีแก่เธอนั้น ท่าน ทั้งหลาย ก็สัมปชานมุสาวาทแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า เป็นธรรมทำอันตราย เพราะฉะนั้น เมื่อภิกษุต้องอาบัติแล้วระลึกได้ หวังความบริสุทธิ์ พึงเปิดเผยอาบัติซึ่งมีอยู่ เพราะเปิดเผยอาบัติแล้ว ความสบายย่อมมีแก่เธอ

การฝึกหัดจิตให้มีสติตลอด : หลวงปู่เทสก์

วันนี้ จะเทศนาเรื่อง การฝึกหัดจิต จิตของคนเราต้องฝึกหัด เช่นเดียวกับสัตว์ที่อยู่ในป่าที่เขาจับมาใช้ จะใช้งานได้ต้องฝึกต้องหัดเสียก่อน จิตของเรายังไม่ได้ฝึกหัดก็เหมือนกับสัตว์ที่อยู่ในป่านั่นแหละ เราจับจิตมาฝึกหัด คือ เราตั้งใจฝึกหัดจริงๆ จึงจะเรียกว่าเราฝึกหัดจิต

ประกาศ : เรื่องการรับสมัครบรรพชา-อุปสมบทเต็ม



ขณะนี้ได้มีผู้มีจิตศรัทธาขอบรรพชา-อุปสมบทเป็นจำนวนมาก และเนื่องจากกุฏิที่พักมีจำนวนจำกัดจึงไม่สามารถที่จะเพิ่มได้อีก ทางวัดสุนันทวนารามขอปิดการขอบรรพชา ในช่วงเวลาที่กำหนดคือ วันเสาว์ที่ 17 ก.ค.-27 ต.ค.53
จีงขอเรียนมาให้ทราบทั่วๆกัน

เหนื่อยก็ไม่พัก หนักก็ไม่วาง

พระโพธิญาณเถร หลวงพ่อชา สุภัทโท
วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี


โลกนี้มันก็สม่ำเสมอดีอยู่หรอก
ที่มันไม่สม่ำเสมอนั้นเพราะจิตของเราหลงไป อุปาทานมั่นหมายมันเสียแล้ว
เช่น ต้นไม้ในป่านี้แหละ ต้นนี้มันโตไป ต้นนี้มันเล็กไปต้นนี้มันสูงไปต้นนี้มันเตี้ยไป
นี่เราก็พูดแต่เรื่องของเรา ต้นไม้มันก็ไม่ว่าของมันยาวหรือสั้น
มันก็เป็นของมันอยู่อย่างนั้น

คิริมานนทสูตร (พระยาธรรมมิกราชสูตร)


"อาน นฺท ดูกรอานนท์ ธรรมนี้ชื่อว่าพระยาธรรมิกราช เพราะเป็นใหญ่กว่าธรรมทั้งหลาย ข้อที่เราตถาคตได้ตรัสไว้แล้วในธรรมหมวดนี้คือได้ชี้นรก สวรรค์ พระนิพพาน กิเลสตัณหา โดยจะแจ้งสิ้นเชิง เมื่อผู้ใดได้ฟังแล้วปรารถนาสุขทุกข์ประการใด ก็จงเลือกประพฤติตามความปรารถนา"

"ข้าแต่พระมหากัสสปะ ผู้มีอายุ พระสูตรนี้จะได้ชื่อว่า พระยาธรรมิกราชสูตรตามรับสั่งนั้น จักเสียนิมิตไป เพราะอาศัยพระผู้เป็นเจ้าคิริมานนท์เป็นนิมิต พระสูตรนี้ พระพุทธเจ้าตรัสเทศนาที่วัดเชตวนาราม ปรารภพระคิริมานนท์เกิดอาพาธให้เป็นเหตุ จึงได้ชื่อว่า คิริมานนทสูตร มีเนื้อความดังแสดงมานี้แลฯ"

แจกรูปแทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อเป็นพุทธานุสติ


วัตถุประสงค์ เพื่อถวายแด่พระภิกษุสงฆ์หรือมอบให้ผู้มีศรัทธาในองค์พระตถาคตเจ้า ให้รำลึกนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ เป็นพุทธนุสติ และมีจิตใจตั้งมั่นในการเจริญสติหรือกระทำสิ่งที่เป็นบุญ-กุศล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาใกล้ตายซึ่งมีเวทนามาก ถ้าหากไม่สามารถครองสติดูกาย-เวทนา-จิต-ธรรมได้ ก็ขอให้ระลึกถึงองค์พระตถาคต ทำให้จิตที่เป็นกุศล มีสุคติเป็นที่ไป

รายละเอียดรูป

ด้านหน้า - รูปองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ด้านหลัง - แสดงคาถาอริยสัจ
ขนาด - กระดาษ A4 (29.7 x 21 cm.)
พิมพ์ - 4/1 สี, PVC 2 ด้าน
กระดาษ - Art Card 210 gm.

วิธีขอรับ สอดซองเปล่าขนาด A4 จ่าหน้าซองถึงผู้รับ โดยระบุที่มุมซองว่า “รูปองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า กรุณาอย่าพับ” พร้อมทั้งติดแสตมป์ 5 บาท (1 ซอง+แสตมป์ 5 บาท ต่อ 1 ท่าน)

ส่งมาที่....  สุจิตรา ทิพยทัศน์
87 ซ.รัชมงคลประสาธน์ 10 แขวงปากคลอง
เขตภาษีเจริญ กทม 10160

แล้วจะรีบดำเนินการจัดส่งไปให้ค่ะ